ระดับปริญญาโท (Master Degree)
Permanent URI for this collection
Browse
Recent Submissions
- Itemการพัฒนาทักษะอาชีพการแปรรูปอาหารตามแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา สำหรับนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) วนิฐา ปัญญาส่องการวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะอาชีพการแปรรูปอาหารของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ หลังได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา เรื่อง การแปรรูปอาหารกับเกณฑ์ร้อยละ 70 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแปรรูปอาหาร ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา สำหรับนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีต่อแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เมี่ยนและม้ง โดยเลือกอย่างเฉพาะเจาะจง จำนวน 13 คน เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แผนจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแปรรูปอาหาร แบบวัดทักษะอาชีพ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้สถิติวิลคอกซัน (The Wilcoxon Signed-Ranks Test) ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์หลังจากได้รับการเรียนรู้ ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษามีทักษะอาชีพการแปรรูปอาหารสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ที่จัดการเรียนรู้ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา เรื่อง แปรรูปอาหาร มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน (ค่าเฉลี่ย = 22.23, S.D.= 2.52) และก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย = 16.85, S.D.= 4.18) 3) ความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีต่อแนวทางการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาทั้ง 4 ด้าน นักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.53, S.D = 0.14)
- Itemการศึกษาความพร้อมการประกันคุณภาพภายในเพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงราย เขต 2(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) วัศพล ชุตินทราศรีการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความพร้อมการประกันคุณภาพภายในเพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับความพร้อมการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาแนวทางการเตรียมความพร้อมการประกันคุณภาพภายใน เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และวิธีเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 306 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า โดยวิเคราะห์ สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าเอฟ โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ และแบบสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ความพร้อมการประกันคุณภาพภายในเพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบความพร้อมการประกันคุณภาพภายในเพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา จำแนกตามขนาดสถานศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) แนวทางการเตรียมความพร้อมการประกันคุณภาพภายใน ได้แก่ 1) วางแผนและดำเนินการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น 2) ใช้หลักบริหารแบบมีส่วนร่วมและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการปฏิบัติงานและส่งเสริมการเรียนรู้ และ 3) ส่งเสริมการพัฒนาครูให้มีความรู้ จากสื่อที่หลากหลายมากขึ้น
- Itemความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษากับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) วณัฐดา ฟูแสงการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา 2) ศึกษาการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษา กับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา จำนวน 165 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า 1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล ด้านการสร้างแรงบันดาลใจ และด้านการกระตุ้นทางปัญญา ตามลำดับ 2. การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการใช้เทคโนโลยี ด้านมีวิสัยทัศน์ ร่วมกัน ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ ด้านเรียนรู้เป็นทีม ด้านบุคลากรชั้นเลิศ และด้านมีแบบแผนความคิดร่วม ตามลำดับ 3. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษากับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพะเยา โดยภาพรวมและรายด้านมีความสัมพันธ์ทางบวกอยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- Itemความคาดหวังของเกษตรกรต่อบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านส่งเสริมการเกษตรกรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลจำป่าหวายอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2015) สิบตำรวจเอกอดิศร แลวงค์นิลการศึกษา เรื่องความคาดหวังของเกษตรกรต่อบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านส่งเสริมการเกษตร กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลจำป่าหวาย มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาความคาดหวังของเกษตรกร และศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขที่มีต่อการส่งเสริมภาคเกษตรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลจำป่าหวาย การศึกษาใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงสำรวจ ใช้แบบสอบถาม จำนวน 380 ตัวอย่าง วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา โดยใช้ตารางแจกแจงความถี่ ซึ่งแสดงผลเป็นร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่ออธิบายถึงลักษณะของข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ของแบบสอบถามและการวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงอนุมาน ในการทดสอบสมมติฐานของงานวิจัยส่วนนี้ใช้ Independent-sample t-test และใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ผลการศึกษาพบว่า สิ่งที่เกษตรคาดหวังสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ความคาดหวังให้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี ความคาดหวังให้จัดตั้งศูนย์กลางจำหน่ายสินค้าการเกษตรในชุมชน และความคาดหวังให้ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มเพื่อมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าได้เอง ผลการศึกษาความแตกต่างลักษณะทางประชากรศาสตร์กับระดับความคาดหวังของเกษตร พบว่า ปัจจัยด้าน เพศ อายุ พื้นที่เพาะปลูก ต่างกันมีระดับความคาดหวังของเกษตรกร โดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่ปัจจัยด้านระดับการศึกษา พืชผลทางการเกษตรที่เพาะปลูก และรายได้จากการทำการเกษตรที่แตกต่างกัน มีผลต่อระดับความคาดหวังของเกษตรกรแตกต่างกัน ข้อเสนอแนะ ควรกำหนดนโยบายส่งเสริมการเกษตรโดยให้เกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี และสามารถจัดการทรัพยากรทางการเกษตรให้เหมาะสมและคุ้มค่า โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีรายได้หลักจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
- Itemการคงอยู่ในบทบาทของครูผู้สอนโรงเรียนพื้นที่พิเศษ จังหวัดเชียงราย(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2012) พัลลภ โสรัจประสพสันติการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 เพื่อศึกษาการคงอยู่ในโรงเรียนพื้นที่พิเศษของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 เพื่อศึกษาบทบาทที่เป็นจริงของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 และเพื่อศึกษาบทบาทที่คาดหวังของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 กลุ่มตัวอย่างใช้ การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ได้แก่ ข้าราชการครู ครูอัตราจ้าง ครูพี่เลี้ยง พนักงานราชการ ที่ทำหน้าที่ครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 129 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามที่เกี่ยวกับการคงอยู่ในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ และบทบาทที่เป็นจริงกับบทบาทที่คาดหวัง ชนิด 5 ตัวเลือก คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด และแบบสำรวจสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Arithmetic mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ค่าความถี่ของข้อมูล (Frequency) ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอน มีระยะทางเฉลี่ยจากโรงเรียนในพื้นที่พิเศษถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 อยู่ที่ 43 กิโลเมตร (ใกล้ที่สุดโรงเรียนดอยแสนใจ 23 กิโลเมตร ไกลที่สุด โรงเรียน ตชด.บ้านนาโต่ 61 กิโลเมตร) สภาพถนนเป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขาสูงหลายลูก โรงเรียนไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่าน ด้านสาธารณูปโภค มีไฟฟ้า น้ำ โทรศัพท์ ครบทุกโรงเรียน ยกเว้น โรงเรียน ตชด.บ้านนาโต่ ไม่มีโทรศัพท์ 2. สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม มีจำนวน 129 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง และอายุ 25 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาผู้ตอบแบบสอบถามมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีเป็นส่วนใหญ่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีระยะเวลาที่ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ ต่ำกว่า 5 ปี และเป็นข้าราชการครู จำนวน 91 คน 3. การคงอยู่ในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ ของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบ พบว่า ด้านปัจจัยพื้นฐาน ด้านความปลอดภัย ด้านสังคม พวกพ้อง ด้านเกียรติยศ การยกย่อง ความสำเร็จ อยู่ในระดับมากทุกด้าน 4. บทบาทที่เป็นจริง ของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบพบว่า ด้านการสอน ด้านเชื่อมโยงชุมชน ด้านประสานชุมชน และด้านผู้นำการเปลี่ยนแปลง อยู่ในระดับมากทุกด้าน 5. บทบาทที่คาดหวัง ของครูผู้สอนในโรงเรียนพื้นที่พิเศษ กลุ่มแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบพบว่า ด้านการสอน ด้านเชื่อมโยงชุมชน ด้านผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ด้านนี้อยู่ระดับมากที่สุด และด้านประสานชุมชนอยู่ในระดับมาก