ระดับปริญญาโท (Master Degree)
Permanent URI for this collection
Browse
Recent Submissions
Now showing 1 - 5 of 884
- Itemการศึกษาสภาพการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) สรศักดิ์ ภู่ระโหงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาระดับสภาพการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย 2) เปรียบเทียบสภาพการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย จำแนกตามตำแหน่งในการปฏิบัติงาน และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย 245 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการประกันคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา รองลงมา คือ ด้านการวางแผนและงบประมาณ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรภายนอกสถานศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และด้านการส่งเสริมงานวิจัยพัฒนานวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ 2) ผลการเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานฝ่ายแผนงานและความร่วมมือในภาพรวม จำแนกตามตำแหน่งในการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้บริหาร ครู และเจ้าหน้าที่ ที่มีตำแหน่งในการปฏิบัติงานต่างกัน มีความคิดเห็นต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และจำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า ในภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
- Itemทักษะแห่งอนาคตใหม่ของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) พระพงศกร ไกลถิ่นการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทักษะแห่งอนาคตใหม่ของผู้บริหาร 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู โดยจำแนกตามเพศ ตำแหน่งงาน และประสบการณ์ทำงาน เกี่ยวกับทักษะแห่งอนาคตใหม่ของผู้บริหารที่โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 91 รูป/คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) ทักษะแห่งอนาคตใหม่ของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับ 3 ลำดับแรก ได้แก่ ทักษะการสร้างความร่วมมือ ทักษะการยอมรับในความหลากหลาย และทักษะความเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจ 2) ผลการเปรียบเทียบทักษะแห่งอนาคตใหม่ของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดพะเยา จำแนกตามเพศ และประสบการณ์ทำงาน ในภาพรวม พบว่า ไม่แตกต่างกัน และจำแนกตามตำแหน่งงาน ในภาพรวม พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- Itemแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพหนองเล็งทราย จังหวัดพะเยา(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2022) วิสสุตา หมื่นตื้อการวิจัยเรื่อง แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่หนองเล็งทราย จังหวัดพะเยา โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบท สภาพพื้นที่ทางธรรมชาติและศักยภาพทางการท่องเที่ยว 2) เพื่อศึกษาแรงจูงใจและความคิดเห็นของผู้มาเยือน และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานความหลายหลายทางชีวภาพในพื้นที่หนองเล็งทราย จังหวัดพะเยา การศึกษาครั้งนี้ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพผสมผสานกับวิจัยเชิงปริมาณ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาทางการท่องเที่ยวและใช้บริการแหล่งท่องเที่ยว ตามองค์ประกอบทั้ง 6 ด้าน ประกอบด้วย 1) สิ่งดึงดูดใจ ได้แก่ การสร้างจุดเด่นที่น่าสนใจ (แลนด์มาร์ก) ในพื้นที่หนองเล็งทราย 2) กิจกรรมทางการท่องเที่ยว ได้แก่ ล่องเรือในป่าอเมซอน 3) การเข้าถึง ได้แก่ การพัฒนาเส้นทางเดินเท้าโดยรอบหนองเล็งทราย 4) สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูล รวมถึงคำแนะนำแก่ผู้มาเยือน 5) ด้านที่พัก ได้แก่ การพัฒนาการจัดการที่พักบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่หนองเล็งทราย และ 6) ด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ การให้ความรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ในด้านของแรงจูงใจและความคิดเห็นของผู้มาเยือนในพื้นที่หนองเล็งทราย พบว่า ในการเดินทางท่องเที่ยวผู้มาเยือนให้เหตุผลที่ผู้มาเยือนเดินทางมาเยือนหนองเล็งทราย (ปัจจัยผลัก) ระดับมากที่สุด ได้แก่ มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และสิ่งที่ดึงดูดให้เดินทางมาเยือนหนองเล็งทราย (ปัจจัยดึง) ได้แก่ การมารับประทานอาหารริมหนองเล็งทราย เช่น ปลาเผา กุ้งเผา ความคิดเห็นต่อการพัฒนาทางการท่องเที่ยว และใช้บริการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่หนองเล็งทราย สรุปได้ว่า การพัฒนาทางการท่องเที่ยวและใช้บริการแหล่งท่องเที่ยว ตามองค์ประกอบทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) สิ่งดึงดูดใจ ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรทางธรรมชาติในชุมชนพื้นที่หนองเล็งทรายให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เช่น บัวพันไร่ ต้นไคร้พันปี ดูนกหายาก เต่าวางไข่ 2) กิจกรรมทางการท่องเที่ยว ได้แก่ การพัฒนาการจัดสถานที่ถ่ายรูป 3) การเข้าถึง ควรมีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่องโยงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ใกล้เคียง 4) สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ การรักษาความปลอดภัยของแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่หนองเล็งทราย และ 5) ด้านที่พัก ได้แก่ การพัฒนาการจัดการที่พักบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่หนองเล็งทราย และในส่วนแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหนองเล็งทราย ในด้านสิ่งดึงดูดใจ พบว่า ควรมีการพัฒนาทรัพยากรทางธรรมชาติในชุมชนพื้นที่หนองเล็งทรายให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านกิจกรรมทางการท่องเที่ยว พบว่า ควรมีกิจกรรมการเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชุมชนมากที่สุด ด้านการเข้าถึง พบว่า ควรมีการพัฒนาเส้นทาง เข้า-ออก ให้กว้างขึ้น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่า ควรมีการจัดสถานที่ทำกิจกรรมของผู้มาเยือน ในด้านที่พัก พบว่า ควรมีการพัฒนาการให้บริการลานกางเต็นท์ในพื้นที่หนองเล็งทราย และในด้านการบริหารจัดการ พบว่า ควรมีการพัฒนานโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่หนองเล็งทราย
- Itemการศึกษาสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) ฐิติชญาณ์ วงค์ก่ำการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษา และ 2) เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้ครั้งนี้ ได้สุ่มจากประชากร โดยใช้วิธีคำนวณตามสูตรของทาโร่ ยามาเน่ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครู รวม 336 คน เครื่องมืองที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (T-test) การทดสอบค่าเอฟ (F-test) ผลการวิจัย พบว่า 1) สมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษา ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณา เป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านมีระดับสมรรถนะหลักอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ที่ดี รองลงมา คือ ด้านการทำงานเป็นทีม และด้านการพัฒนาตนเอง ตามลำดับ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยสุด คือ ด้านการบริการที่ดี 2) ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ข้าราชการครูและผู้บริหารสถานศึกษามีความคิดเห็นเกี่ยวกับสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- Itemปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงราย(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) ธัญญารัตน์ จันทาพูนงานวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ (6P’s) ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงราย และ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงราย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้บริโภควัยทำงานที่มีประสบการณ์ซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 400 ราย โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมานเพื่อการทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีเครื่องหมายรับรองการค้าออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นปัจจัยความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ (6P’s) มีเพียง 2 ด้าน ประกอบด้วย ปัจจัยด้านการให้บริการส่วนบุคคล และปัจจัยด้านราคาที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงรายได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05