คณะสหเวชศาสตร์
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing คณะสหเวชศาสตร์ by Subject "Agility"
Now showing 1 - 3 of 3
Results Per Page
Sort Options
- Itemผลของการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลักในนิสิตหญิงมหาวิทยาลัยพะเยา(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2015) ก้องเกียรติ สีดา; สุรัชนา เกตุบุญมี; อรอุมา สุขอิ่มการศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลักต่อความืดหยุ่น และความคล่องแคล่วในนิสิตหญิง มหาวิทยาลัยพะเยา จำนวน 40 คน อายุ 18-23 ปี โดยทำการสุ่มและแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว (20 คน) และกลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลัก (20 คน) โดยกลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวได้รับการฝึกตามโปรแกรมการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหว ส่วนกลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลักได้รับการฝึกตามโปรแกรมการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลัก ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มได้รับการวัดค่าการทดสอบการนั่งงอตัวและทดสอบความคล่องแคล่วทั้งก่อนและหลังการทดสอบ โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ p < 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังการทดสอบกลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวและกลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลัก มีค่าการทดสอบการนั่งงอตัวและค่าการทดสอบการวิ่งเก็บของเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p > 0.05) แต่กลุ่มอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลักความยืดหยุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มที่อบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว การศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่าทั้งการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว และการอบอุ่นร่างกายแบบเคลื่อนไหวร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อแบบเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อหลัก ช่วยให้ความยืดหยุ่นและความคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น
- Itemผลของการเดินถอยหลังต่อความคล่องแคล่วในวัยรุ่นหญิงที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2019) เกศรินทร์ อินตุ้ย; ศิริวรรณ ฤทธิกรณ์; อาทิตยา จันทร์แว่นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการเดินถอยหลังต่อความคล่องแคล่วในวัยรุ่นหญิงที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน โดยทำการศึกษาในวัยรุ่นหญิง อายุระหว่าง 18-24 ปี และมีค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 23.0- 40.0 kg/m จำนวน 30 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 15 คน และกลุ่มทดลอง 15 คน ทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับการทดสอบความคล่องแคล่วโดยใช้การทดสอบ T-test และการวิ่งเก็บของ (Shuttle run test) ในช่วงก่อนการทดลอง (Pre-test) และหลังการทดลอง (Post-test) อาสาสมัครกลุ่มควบคุมจะไม่ได้รับโปรแกรมการเดินถอยหลัง และให้ทำกิจวัตรประจำวันของตนเองตามปกติในขณะที่อาสาสมัครในกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการเดินถอยหลัง โดยจะเดินถอยหลังเป็นระยะเวลา 15 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ผลการศึกษาพบว่า ในการทดสอบ T-test กลุ่มทดลองมีค่าระยะเวลาในช่วงหลังการทดลองลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกันในทั้ง 2 ช่วงและการทดสอบการวิ่งเก็บของ (Shuttle run test) พบว่า ในช่วงหลังการทดลองค่าระยะเวลาในกลุ่มควบคุมมีค่าเพิ่มขึ้นในขณะที่กลุ่มทดลองมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการทดลอง และกลุ่มทดลองมีค่าน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การเดินถอยหลังเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ สามารถเพิ่มความคล่องแคล่วในวัยรุ่นหญิงที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนได้
- Itemผลของดนตรีบำบัดต่อความคล่องแคล่ว การทรงตัว และภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2018) ณัฐณิชา บุตรโพธิ์; สโรชา เสริฐปัญญา; อดิศา งานลอที่มา: ผู้สูงอายุ คือ วัยที่มีการปลี่ยนแปลงหลากหลายด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย เช่น สมรรถภาพทางกายเสื่อมถอย ส่งผลให้ความคล่องแคล่วและการทรงตัวลดน้อยลง ทางด้านสังคม โดยมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น ภาระหน้าที่และบทบาททางสังคมลดน้อยลง และทางด้านอารมณ์ จิตใจ เช่น อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย รู้สึกหงุดหงิด น้อยใจ รู้สึกลำพังไม่มีที่พึ่ง และรู้สึกเป็นภาระของผู้อื่นซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะซึมเศร้า วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของดนตรีบำบัดต่อความคล่องแคล่ว การทรงตัว และภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุระหว่างกลุ่มที่ไม่ได้รับดนตรีบำบัดและกลุ่มที่ได้รับดนตรีบำบัด วิธีการศึกษา: ศึกษาในผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60-80 ปี จำนวน 24 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยการสุ่มแบบชั้นภูมิกลุ่มละ 12 คน คือ กลุ่มควบคุม : กลุ่มที่ไม่ได้รับดนตรีบำบัดและทำกิจวัตรประจำวัตรตามปกติ และกลุ่มดนตรีบำบัด : กลุ่มที่ได้รับดนตรีบำบัด โดยฟังดนตรีเป็นเวลา 40 นาที/วัน จำนวน 4 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ อาสาสมัครทั้งสองกลุ่มจะได้รับการทดสอบ Agility course test, Time up and go test และแบบวัดความซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย (Thai Geriatric Depression Scale: TGDS) ทั้งก่อนและหลังการรับดนตรีบำบัด ผลการศึกษา: ภายหลังการรับดนตรีบำบัดกลุ่มดนตรีบำบัดมีค่า Agility course test และ Time up and go test ลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) และมีแนวโน้มของภาวะซึมเศร้าลดลง ส่วนกลุ่มควบคุมมีค่า Agility course test ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งนี้อาจมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น กิจกรรมทางกายระดับของภาวะซึมเศร้า การนอนหลับ สถานภาพทางครอบครัว เป็นต้น สรุปผลการศึกษา: โปรแกรมดนตรีบำบัดเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความคล่องแคล่ว การทรงตัว และมีแนวโน้มของภาวะซึมเศร้าลดลง