การศึกษาการรู้ดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย
Loading...
Date
2022
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการรู้ดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการรู้ดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย สหวิทยาเขตสุดถิ่นไทย จำนวน 320 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1) เป็นแบบสอบถาม โดยมีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณ ค่า 5 ระดับ 2) แบบสัมภาษณ์ชนิดกึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) การรู้ดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยทักษะที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มิติการเข้าใจ รองลงมา คือ มิติการสร้าง และมิติการใช้ ตามลำดับ ส่วนมิติที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มิติการเข้าถึง 2) แนวทางการพัฒนาการรู้ดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย มิติการเข้าถึงผู้บริหารสถานศึกษาควรให้ความสำคัญ มีนโยบายความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าถึงเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลเพื่อพัฒนาการศึกษา อีกทั้งมีการพัฒนานวัตกรรมทางด้านดิจิทัลที่ทันสมัย สถานศึกษาจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัล ควรมีหลักสูตรสถานศึกษาหรือกิจกรรมการเรียนการสอนเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและการเป็นพลเมืองดิจิทัล มีการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในทางจริยธรรม กฎหมายและสังคมให้เกิดความตระหนักในกฎหมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และผู้บริหารควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่สร้างสรรค์และมีการพัฒนาศักยภาพตนเองอยู่สม่ำเสมอ รวมถึงยังสามารถจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และนวัตกรรมดิจิทัลได้อย่างมืออาชีพ
Description
The objectives of this study were 1) the study of digital literacy of school administrators under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai and 2) the study guidelines for developing digital literacy of school administrators under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai. The sample group used in this research were administrators and teachers in educational institutions under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai, Sudthinthai Campus, 320 people were drawn from the sampling method from Krejcie and Morgan’s table. The research tools were divided into 2 types. 1) is a questionnaire with a 5-level estimation scale and 2) a semi-structured interview. Statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean and standard deviation and 5 qualified people. Research instruments are divided into 2 types. 1) is a questionnaire with a 5-level estimation scale and 2) a semi-structured interview. The statistics used to analyze the data were frequency, percentage, mean and standard deviation. The research results found that: 1) The study of digital literacy for school administrators under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai. Overall and each aspect was at a high level the skills with the highest average values were the comprehension dimension, followed by the creation dimension and the usage dimension, respectively. The dimension with the lowest average is the reach dimension. 2) The study guidelines for developing digital literacy of school administrators under the Secondary Educational Service Area Office Chiang Rai. Access dimension school administrators should give importance, have policies, knowledge and understanding about access to technology in the digital age to develop education. There is also the development of modern digital innovations. Schools must have a broad vision of developing technology skills in the digital age. There should be a school curriculum or instructional activity on technology use and digital citizenship. Ethical awareness is encouraged and promoted. Law and society to raise awareness of technology related laws and executives should be a good role model to be creative digital citizens and constantly develop their potential, as well as being able to provide a professional learning and digital innovation environment.
Keywords
การรู้ดิจิทัล, ผู้บริหารสถานศึกษา, Digital Literacy, Administrators