การศึกษาสภาพการบริหารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3
Loading...
Date
2021
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพทางการบริหารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 โดยทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จำนวน 323 คน ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 140 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบบสอบถาม แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) วิเคราะห์เปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ Scheffe' ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า 1) สภาพการบริหารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 อยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยภาพรวม มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และจำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Description
The purposes of this research were to study school management following the Anti-Corruption Education of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 3, and to compare with management prior to the Anti-Corruption Education of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 3. The study sampled 323 peoples, including directors of education and teachers. The research used a random stratified sampling of participants by using the sample size table of Krejcie and Morgan. Data was collected using a five-rating question and was analyzed through a computer program to calculate the mean, S.D., and One-Way ANOVA. The results of the study were as follows: 1) The school management following Anti-Corruption Education of Chiang Rai Primary Educational Service Area Office 3 was in the high levels. 2) Work experiences the result were significantly different at the statistical level of 0.05 and also school size the result were significantly different at the statistical level of 0.05.
Keywords
การบริหารหลักสูตร, หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา, Management Curriculum, Anti-Corruption Education