กฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง: กรณีศึกษาเครื่องหมายการค้า
dc.contributor.author | ชินพงศ์ มณีรัตน์ | |
dc.date.accessioned | 2024-10-08T08:36:11Z | |
dc.date.available | 2024-10-08T08:36:11Z | |
dc.date.issued | 2019 | |
dc.description | Business Security Act B.E. 2558 has stipulated that entrepreneurs can use intellectual property as a security for debt. However, that act has a flaw about obligation for value estimation and force to pay the debt from intellectual property. The objective of this research was to study ways to estimate value of intellectual property especially trademark and create rule for value estimation and paying debt from trademark. From comparing law regarding debt security and rule for value estimation of intellectual property in Korea, it was found that application is required to obtain real value of trademark and law about paying debt and enforcement from intellectual property. According to Uniform Commercial Code Article 9 of United States, it shows that the act is open for partner to choose ways to force, especially for intellectual property. The results of this study showed that value estimation of trademark should be done by comparing with market price together with special way to reflect real value of trademark in the market. For paying debt enforcement of trademark, it uses the way that partner can choose including auction, fully or partly sale trademark by auction. | |
dc.description.abstract | ภายใต้พระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 กำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ยังมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การดำเนินการประเมินมูลค่า และการดำเนินการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทางปัญญา บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวทางการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญารวมถึงการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะเครื่องหมายการค้า และสร้างหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าและการบังคับชำระหนี้จากเครื่องหมายการค้า จากการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายหลักประกันการชำระหนี้ และหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาของสาธารณรัฐเกาหลี พบว่า จำต้องใช้วิธีการประยุกต์เพื่อให้ได้มาซึ่งมูลค่าที่แท้จริงของเครื่องหมายการค้า และกฎหมายหลักประกันการชำระหนี้ และการดำเนินการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทางปัญญาตาม Uniform Commercial Code Article 9 ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า มีการเปิดกว้างของบทบัญญัติในการให้คู่สัญญาเลือกวิธีการบังคับชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะส่วนทรัพย์สินทางปัญญา จากการศึกษาพบว่า การประเมินมูลค่าเครื่องหมายการค้าควรใช้การประเมินมูลค่าจากกระบวนการเปรียบเทียบ จากราคาตลาดประกอบกับวิธีการประเมินด้วยวิธีการพิเศษ เพื่อที่จะสะท้อนให้เห็นมูลค่าที่แท้จริงตามท้องตลาดของเครื่องหมายการค้า ในส่วนการบังคับชำระหนี้เครื่องหมายการค้าใช้รูปแบบที่คู่สัญญาในหลักประกันสามารถเลือกวิธีการบังคับชำระหนี้ได้ โดยการประมูลการขายทอดตลาดทั้งหมดหรือบางส่วนของผลิตภัณฑ์ในเครื่องหมายการค้าก็ได้ | |
dc.description.sponsorship | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
dc.identifier.citation | ชินพงศ์ มณีรัตน์. (2562). กฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง: กรณีศึกษาเครื่องหมายการค้า. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยพะเยา]. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC). | |
dc.identifier.uri | https://updc.up.ac.th/handle/123456789/827 | |
dc.language.iso | other | |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
dc.subject | หลักประกันการชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา | |
dc.subject | วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | |
dc.subject | การประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา | |
dc.subject | การบังคับชำระหนี้ | |
dc.subject | Debt security with intellectual property | |
dc.subject | Small and medium-sized enterprises | |
dc.subject | Intellectual property valuation | |
dc.subject | Debt settlement enforcement | |
dc.title | กฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง: กรณีศึกษาเครื่องหมายการค้า | |
dc.title.alternative | Law Related to Business Security of Small and Medium Enterprise: A Case Study of Trademark | |
dc.type | Thesis |