การศึกษาคุณสมบัติของเครื่องมือประเมินความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุในชุมชน
No Thumbnail Available
Date
2016
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
ที่มา การทดสอบลุกยืน 3 ครั้งแล้วเดิน เป็นการทดสอบความสามสามารถทางกายที่ใช้ในการทำนายความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุไทยในชุมชน อย่างไรก็ตาม การทดสอบนี้ยังขาดคุณสมบัติเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือด้านต่างๆ เช่น ความเที่ยงตรง ความน่าเชื่อถือระหว่างบุคคล เป็นต้น วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความนำเชื่อถือระหว่างบุคคล ของการทดสอบลุกยืน 5 ครั้งแล้วเดินในผู้สูงอายุในชุมชน ประเมินความเที่ยงตรงตามสภาพ และความเที่ยงตรงด้านการจำแนก เพื่อนำไปพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปในการคัดกรอง และป้องกันการล้มในผู้สูงอายุ วิธีการผู้เข้าร่วมวิจัยทั้งหมด 97 คน ถูกซักประวัติการล้มย้อนหลัง 6 เดือน พบว่า มีคนที่เคยล้ม 9 คน และกลุ่มไม่ล้ม 88 คน หลังจากนั้นอาสาสมัครได้รับตรวจประเมินข้อมูลพื้นฐาน และการทดสอบ The Thai fall risk assessment tool (Thai-FRAT) กับการทดสอบลุกยืน 5 ครั้งแล้วเดิน ผลการศึกษา พบว่า การทดสอบลุกยืน 5 ครั้งแล้วเดิน มีความน่าเชื่อถือระหว่างบุคคล (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นิสิตกายภาพบำบัด และนักกายภาพบำบัด) อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม (ICCs = 0.985, 95%C : 0.962-0.994) นอกเหนือจากนั้น พบว่า การทดสอบลุกยืน 3 ครั้งแล้วเดินมีความเที่ยงตรงด้านการจำแนก (p < 0.05) สำหรับแยกกลุ่มที่ล้มและไม่ล้มออกจากกัน อย่างไรก็ตามพบว่า มีความเที่ยงตรงตามสภาพอยู่ในระดับต่ำมาก (D = 0.230, p < 0.05) สรุปผลการศึกษา การทดสอบลุกยืน 3 ครั้งแล้วเดินมีความน่าเชื่อถือและความเที่ยงตรง สามารถนำไปใช้ในผู้สูงอายุได้ โดยเฉพาะ อสม. สามารถนำไปใช้ในการคัดกรองความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุในชุมชนและประเมินความสามารถทางกายได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากได้รับการฝึกการใช้การทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
Description
Introduction: The Three Times Stand and Walk test (TTSW) is functional test used to predict the risk of falling in Thai community-dwellings elderly. However, there is a lack of supporting information, such as the validity, and therefore the inter tester reliability of the test itself. Objectives: The objective of study was to examine the inter-tester reliability and concurrent validity, and discriminative validity of the TTSW in community-dwelling older adults. Additionally, the aim was to develop the program for screening and prevent falls in community-dwelling older adults. Method: There are 97 subjects, 9 subjects having experienced at least one fall in the past 6 months and 88 non-faller subjects. The all of subjects were evaluated the demographics and performed the Thai fall risk assessment tool (Thai-FRAT) and TTSW Result: The result shows that TTSW has excellent inter-tester reliability (a health village volunteers, a physical therapy student, and a physical therapist) (ICCs = 0.985, 95%CI: 0.962-0.994). Additionally, the result find that the TTSW has discriminative ability for distinguish between faller and non-faller. However, the study show very low level of correlation (D = 0.230, p < 0:05). Conclusion: The TTSW provide reliable and validity for use in community-dwelling older adults. Especially, the health village volunteers can use to screen falls in community-dwelling older adults.
Keywords
การล้ม, ความน่าเชื่อถือ, ความเที่ยงตรง, ผู้สูงอายุ, กายภาพบำบัด, Falls, Reliability, Validity, Elderly, Physical Therapy
Citation
ณัฐพร จันทร์ฝาย และสุทธิชัย บัวติ๊บ. (2559). การศึกษาคุณสมบัติของเครื่องมือประเมินความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุในชุมชน. [ปริญญานิพนธ์บัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยพะเยา. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC).