ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อส่วนประสมทางการตลาดและพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร
Loading...
Date
2022
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดของการจัดจำหน่ายอาหารผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหารในกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถาม โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริโภคที่มีอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ที่ใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานการวิจัย ใช้สถิติ One way ANOVA หรือ F-test เพื่อทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffé) สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Coefficient of Correlation) ใช้ในการหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางประชากรศาสตร์ กับส่วนประสมทางการตลาดของแอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยอยู่ในช่วงระหว่าง 32-44 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี รายได้ต่อเดือนอยู่ที่ระหว่าง 20,001-40,000 บาท 2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด อันดับหนึ่ง คือ ด้านกระบวนการ รองลงมา ได้แก่ ด้านลักษณะทางกายภาพ ด้านบุคคล ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา และด้านการส่งเสริมการตลาด ตามลำดับ 3) ปัจจัยทางประชากรศาสตร์ ได้แก่ รายได้ต่อเดือนต่างกัน มีพฤติกรรมการใช้บริการแอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 4) ปัจจัยทางประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษาและรายได้ต่อเดือน ไม่มีความสัมพันธ์กับส่วนประสมทางการตลาดของแอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Description
The objectives of this research were 1) to study the marketing mix of food ordering applications and 2) to study the behavior of consumers using food ordering applications in Bangkok. It was quantitative research. The data was collected through a questionnaire by consumers aged 19 and over who used a consumer food ordering application in Bangkok. The total sample group was 400 participants. Data was analyzed using descriptive statistics including frequency distribution, percentage, mean and standard deviation. The research hypothesis was tested by One-way ANOVA or F-test to test for the pairwise mean differences by Scheffé's method. Pearson's Product Moment Coefficient of Correlation was used to determine the relationship between demographic factors and the marketing mix of food ordering applications among consumers in Bangkok. The findings revealed that 1) most of the participants were female with an average age between 32-44 years old with a bachelor's degree and a monthly income between 20,001-40,000 baht, 2) in overall, the marketing mix factors that were most highly correlated with the food ordering behavior of consumers in Bangkok were the process factor, followed by the physical evidence factor, the people factor, the distribution factor, the product factor, the price factor, and the promotion factor, respectively and, 3) various monthly income and food ordering application behavior of consumers in Bangkok were significantly different at the 0.05 level and, 4) demographic factors such as gender, age, educational level and monthly income were not significantly related to the marketing mix of food ordering applications of consumers in Bangkok at the 0.05 level.
Keywords
แอปพลิเคชัน, พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้บริการแอปพลิเคชันสั่งอาหาร, ผู้บริโภค, ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด, Application, Behavior of consumers using food ordering applications, Customers, Marketing mix
Citation
สุรัตน์ จีนจร. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อส่วนประสมทางการตลาดและพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยพะเยา]. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC).