ผลเฉียบพลันของการออกกำลังกายไทชิต่อการทรงตัวกระบวนการรู้คิดและความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุ

No Thumbnail Available
Date
2018
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นทำให้มีการลดลงของกระบวนการรู้คิดและการทรงตัว ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการหกล้มมากขึ้น จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า การฝึกไทชิสามารถช่วยเพิ่มกระบวนการรู้คิด และการทรงตัวทำให้ลดความเสี่ยงต่อการหกล้มได้ อย่างไรก็ตามการศึกษาผลเฉียบพลันของไทชิต่อกระบวนการรู้คิดและการทรงตัวยังไม่ทราบแน่ชัด ดังนั้น การศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลเฉียบพลันของไทชิต่อกระบวนการรู้คิด การทรงตัวและความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุ ทำการศึกษาในผู้สูงอายุเพศหญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 20 คน แบ่งอาสาสมัครออกเป็นสองกลุ่มโดยการสุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม 10 คน และกลุ่มออกกำลังกายไทชิ 10 คน โดยอาสาสมัครกลุ่มออกกำลังกายไทชิจะได้รับโปรแกรมการออกกำลังกายไทชิเป็นเวลา 30 นาที ในขณะที่กลุ่มควบคุมจะได้นั่งดูวีดีทัศน์การออกกำลังกายไทชิ 30 นาที การทดสอบกระบวนการรู้คิด (Trail Making Test : TMT และ Digit Span Forward test : DSFT) และการทรงตัว (Timed Up-And-Go Test : TUG และ Functional Reach Test : FRT) จะทำการทดสอบก่อนและหลังให้โปรแกรม เมื่อเปรียบเทียบร้อยละการเปลี่ยนแปลงของคะแนน DSFT ก่อนและหลังสิ้นสุดโปรแกรมการออกกำลังกายของอาสาสมัคร ระหว่างกลุ่มออกกำลังกายไทชิและกลุ่มควบคุมพบว่า กลุ่มไทชิมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) สรุปผลศึกษาได้ว่า การออกกำลังกายไทชิเพียง 1 ครั้ง ส่งผลเชิงบวกต่อความจำระยะสั้น และจากผลการทดลองครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายไทชิอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุอย่างไรก็ตามการออกกำลังกายไทชิอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เกิดผลคงค้างของการออกกำลังกายไทชิ
Description
Aging is associated with cognitive and balance decline that increase fall risk. Tai chi training has been shown to have positive effects on cognition, balance and fall risk. However, acute effects of Tai chi on these parameters are still unclear. Therefore, the objective of the present study was to evaluate the acute effects of Tai chi on balance, cognition and risk of fall in older adults. Twenty older adults aged 60 years or above were randomly allocated into control group (n=10) and Toi chi group (n=10). All participants in the Tai chi group were asked to perform tai chi exercise for 30 minutes while the control group were asked to watch the tai chi video. Cognition (Trail Making Test: TMT, and Digit Span Forward test : DSFT) and balance (Timed Up-And-Go Test : TUG and Functional Reach Test : FRT) were determined at baseline and after intervention. After the end of tai chi exercise, the tai chi group showed a higher percentage change in DSFT than the control group (p<0.05). In conclusion, a single bout of Tai chi exercise has a positive effect on short term memory. This result suggests that Tai Chi exercise may reduce risk of falls in older adults. However, performing Tai Chi regularly is important to maintain related health effects.
Keywords
ไทชิ, การล้ม, ผู้สูงอายุ, การทรงตัว, กระบวนการรู้คิด, Tai Chi, Falling, Older adults, Balance, Cognition
Citation
จิรัชญา สวัสดิ์ดิเรกศาล, ธาริณี ชื่นชอบ และรังสิยา หมอยา. (2561). ผลเฉียบพลันของการออกกำลังกายไทชิต่อการทรงตัวกระบวนการรู้คิดและความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุ. [ปริญญานิพนธ์บัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยพะเยา. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC).