ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงตำบลแม่อิง อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา

Loading...
Thumbnail Image
Date
2021
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประชากรทั่วโลก ปัญหาหลักของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในประเทศไทย คือ ผู้ป่วยไม่ตระหนักว่าเป็นโรค และไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ การควบคุมโรคจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสม การวิจัยครั้งนี้เป็นแบบกึ่งทดลองแบบศึกษาสองกลุ่มวัดผลก่อน-หลัง มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง และค่าความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยใช้แนวคิดการรับรู้สมรรถนะแห่งตน Bandula กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตำบลแม่อิง อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา วิธีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีเจาะจง โดยใช้เกณฑ์คัดเข้าคัดออก ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 60 คน หลังจากนั้นสุ่มเข้ากลุ่มโดยวิธีจับฉลาก ได้กลุ่มทดลอง 20 คน และกลุ่มควบคุม 40 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน แบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเอง และแบบบันทึกค่าความดันโลหิต สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired T-test และ independent T-test ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการดูแลตนเอง ค่าความดันโลหิตซิสโตลิค และค่าความดันโลหิตไดแอสโตลิค ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม หลังได้รับโปรแกรม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value < 0.001, 0.013, 0.042 ตามลำดับ) และพฤติกรรมการดูแลตนเอง ค่าความดันโลหิตซิสโตลิค และค่าความดันโลหิตไดแอสโตลิค ระหว่างก่อนและหลังได้รับโปรแกรม ในกลุ่มทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 (p-value < 0.001 เท่ากัน) จะเห็นได้ว่า การส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนให้แก่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมีผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนด้านการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Description
Hypertension is the most important health problem in the world. The main problems are Thai patients with hypertension may not realize it is a health problem and unable to control blood pressure. Disease control requires appropriate behavioral adjustments. This study was quasi-experimental research, two group pretest-posttest design. The objective of this study was to study the effects of self-efficacy promoting program on self-care behaviors for patients with hypertension. Using Bandula's concept of self-efficacy. The sample consisted of patients with hypertension in Mae Ing Sub-district, Phukamyao District, Phayao Province. Purposive sampling method is used in this study, using Inclusion and exclusion criteria. Received a sample of 60 people. After that, a simple random sampling by lottery, divided into 20 experimental groups and 40 control groups. Research instruments included a self-efficacy promoting program, self-management behavior questionnaire, and brachial artery blood pressure record form. The statistics used in this study included percentage, arithmetic mean, standard deviation, paired t-test and independent t-test. Results revealed that self-care behavior, systolic blood pressure and diastolic blood pressure between the experimental group and the control group after receiving the program was found significantly different 0.05 (p-value <0.001, 0.013, 0.042 respectively) and revealed that self-care behavior, systolic blood pressure and diastolic blood pressure between before and after receiving the program in the experimental group was found significantly different 0. 05 ( p-value < 0. 001 equal) .Obviously, self-efficacy promoting program for patients with hypertension cause self-care behavior modification of them. The results of this study can be used as information in health promotion planning and develop care for patients with hypertension to be more efficient.
Keywords
โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน, พฤติกรรมการดูแลตนเอง, ความดันโลหิตสูง, Self-efficacy promoting program, Self-care behaviors, hypertension
Citation