ผลของอุปกรณ์นวดกดจุดที่พัฒนาจากลูกเทนนิสต่อขีดกั้นระดับความเจ็บปวดด้วยแรงกดและองศาการเคลื่อนไหวของคอในบุคลากรที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อคอและบ่าจากการทำงาน
No Thumbnail Available
Date
2016
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
การนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความตึงตัวของกล้ามเนื้อคอและบ่า ส่งผลให้เกิดอาการปวดขึ้นและนำไปสู่การลดลงขององศาการเคลื่อนไหวของคอ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ คือ ศึกษาถึงผลของการนวดกล้ามเนื้อคอและบ่าด้วยอุปกรณ์นวดด้วยลูกเทนนิสที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่ต่อระดับความเจ็บปวด (Visual analog scale ; VAS) ระดับขีดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดด้วยแรงกด (Pressure pain threshold : PPT) และองศาการเคลื่อนไหวของคอ (Cervical range of motion : CROM) ในบุคลากรวัยทำงานที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อคอและบ่าจากการทำงาน จำนวน 28 คน อายุ 21-43 ปี (เพศชาย 4 คน เพศหญิง 24 คน) โดยอาสาสมัครมีอาการปวดกล้ามเนื้อคอและบ่าทั้งสองข้างจากการทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน และมีอาการมาแล้วอย่างน้อย 5 เดือน อาสาสมัครถูกวัดระดับความรู้สึกเจ็บปวด (VAS) และระดับขีดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดด้วยแรงกด (PPT) โดยใช้เครื่อง Digital pressure algometer และการวัดองศาการเคลื่อนไหวของคอ (CROM) โดยใช้เครื่อง Fluid inclinometer ทั้งก่อนและหลังการนวดด้วยอุปกรณ์นวดที่พัฒนาจากลูกเทนนิส เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ใช้สถิติ Pair sample t-test ในการวิเคราะห์ตัวแปรระดับขีดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดด้วยแรงกด และองศาการเคลื่อนไหวของคอใช้สถิติ Wilcoxon singed rank test ในการวิเคราะห์ตัวแปรระดับความรู้สึกเจ็บปวด เพื่อหาความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการนวด ผลการศึกษานี้พบว่า ระดับความรู้สึกเจ็บปวดมีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ส่วนระดับขีดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดด้วยแรงกด และองศาการเคลื่อนไหวของคอมีค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) จากการศึกษานี้สรุปได้ว่า การนวดด้วยอุปกรณ์นวดที่พัฒนาจากลูกเทนนิสสามารถช่วยลดอาการปวดและเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวของคอในบุคลากรวัยทำงานที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อคอและบ่าจากการทำงานได้
Description
Prolonged working and computer-related seated immobility are cause of the neck and shoulder muscle spasm that lead to decrease cervical range of motion (CROM). Therefore, the propose of this study was to examined the effect of the new massage device developing from tennis balls on visual analog pain scale (VAS), pressure pain threshold (PPT) and CROM in staff with work-related neck and shoulder muscle pain. 28 volunteers (4 men and 24 women, mean), age between 21-43 years old who have neck and shoulder muscle pain causing by prolonged seated working computer more than 4 hours per day, have this symptom at least 3 months. They were investigated VAS and PPT by using Digital pressure algometer and CROM by using Fluid inclinometer before and after 3 times a week self-massage by the new tennis ball massage device for 2 weeks. The results were analyzed by Pair sample t-test statistic (PPT and CROM variable) and Wilcoxon signed rank test statistic (VAS variable) to compare the variable between before and after massage. The results showed that VAS significantly decrease and PPT and CROM significantly increase after 2 weeks of massaging (p < 0.001). The results of this study conclude that the new massage device developing from tennis ball is able to decrease pain and increase CROM in staff with work-related neck and shoulder muscle pain.
Keywords
การนวด, ลูกเทนนิส, ปวดกล้ามเนื้อคอและบ่า, ระดับขีดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดด้วยแรงกด, Massage device, Tennis balls, Neck and shoulder muscle pain, Pressure pain threshold
Citation
ทิพวรรณ ยอดทน และธนัตชนก เขียวระวงค์. (2559). ผลของอุปกรณ์นวดกดจุดที่พัฒนาจากลูกเทนนิสต่อขีดกั้นระดับความเจ็บปวดด้วยแรงกดและองศาการเคลื่อนไหวของคอในบุคลากรที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อคอและบ่าจากการทำงาน. [ปริญญานิพนธ์บัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยพะเยา. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC).