ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
dc.contributor.author | จุฑาภรณ์ ทาจีนะ | |
dc.date.accessioned | 2023-12-21T04:20:44Z | |
dc.date.available | 2023-12-21T04:20:44Z | |
dc.date.issued | 2022 | |
dc.description | This research quantitative research with unmatched case-control study aimed to study 1) personal characteristics, perceived susceptibility, perceived severity, perceived barriers, perceived benefits and preventive behavior of Opisthorchis viverrini (O. viverrini) and 2) factors associated with O. viverrini infection. The subjects consisted of participants who were stool examined under Cholangiocarcinoma Screening and Car Program of DokKhamtai district health service network (2021). They were selected by using simple random sampling method and divided into two groups: 92 cases and 184 controls. The data were collected by questionnaire and analyzed by using descriptive statistics, Chi-square test and Logistic regression. The results revealed that most of cases and controls were female (57.6, 81.0%), aged 45-59 years (57.6, 60.3%), alcohol consumption (46.7, 45.7%) finished secondary school (73.8,46.6%) farming (85.9, 84.2%), stool examination of family members were negative (43.5, 67.4%), no patient of liver cancer and Cholangiocarcinoma in family (93.5, 92.8%) raw fish consumption (50.0, 51.1%) perceived severity at middle level (59.8, 64.1%), perceived susceptibility at high level(51.1, 50.5%), perceived benefits at high level, (82.6, 77.7%) and perceived barriers at high level, (82.6, 58.2%). The results showed that males were 2.67 times more likely to be infected with O. viverrini than females (adjusted OR = 2.67, 95% CI: 1.48-5.15). Early secondary school reduced the likelihood of developing liver fluke by 67% (adjusted OR = 0.33, 95% CI: 0.17-0.64). Having a family member who had a O. viverrini test was 4.51 times more likely to be infected (adjusted OR = 4.51, 95% CI: 2.30). Finally, routine O. viverrini) prevention behaviors prevented 49% of liver fluke infection (adjusted OR = 0.51, 95% CI: 0.28-0.91). Therefore, there should be a campaign for people to change their behavior and promote participation of communities at all levels in finding ways to prevent liver fluke infection that are appropriate for the context of the area. | |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) รูปแบบไม่จับคู่ย้อนหลัง (Unmatched case-control study) วัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) คุณลักษณะส่วนบุคคล การรับรู้ความเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้อุปสรรค การรับรู้ประโยชน์ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ และพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ 2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการติดโรคพยาธิใบไม้ตับเป็น กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เข้าร่วมตรวจอุจจาระตามโครงการแก้ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี เครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอดอกคำใต้ ปี 2564 แบ่งออกเป็นกลุ่มศึกษา 92 คน กลุ่มควบคุม 184 คน คัดเลือกตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มแบบง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา Chi-square test และ Logistic regression ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะทางประชากรของกลุ่มศึกษา และกลุ่มควบคุมส่วนใหญ่ เพศหญิง (57.6 , 81.0%) อายุ 45-59 ปี (57.6, 60.3%) การศึกษาระดับประถมศึกษา (73.8, 46.6%) อาชีพเกษตรกร (85.9, 84.2%) ประวัติคนในครอบครัวเคยตรวจอุจจาระแต่ไม่พบพยาธิใบไม้ตับ (43.5, 67.4%) ไม่มีญาติสายตรงเคยป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี (93.5. 92.8%) การรับรู้ความรุนแรงปานกลาง (59.8, 64.1%) การรับรู้ความเสี่ยงสูง (51.1, 50.5%) การรับรู้ประโยชน์สูง (82.6, 77.7%) รับรู้อุปสรรคสูง (82.6, 58.2%) ปัจจัยเสี่ยงพบว่า เพศชายมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิใบไม้ตับ 2.67 เท่า (adjusted OR = 2.67, 95% C: 1.48-5.15) เมื่อเทียบกับเพศหญิงการได้รับการศึกษาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาลดโอกาสการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับร้อยละ 67 (adjusted OR = 0.33, 95% C: 0.17-0.64) การมีคนในครอบครัวเคยตรวจพบพยาธิใบไม้ตับทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิใบไม้ตับ 4.51 เท่า (adjusted OR = 4.51, 95% CI: 2.30-8.86) และการปฏิบัติพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับเป็นประจำ ช่วยป้องกันการติดโรคพยาธิใบไม้ตับได้ถึงร้อยละ 49 (adjusted OR = 0.51, 95% CI: 0.28-0.91 ดังนั้น จึงควรมีการรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกระดับ ในการหาแนวทางการป้องกันการติดโรคพยาธิใบไม้ตับเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ | |
dc.description.sponsorship | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
dc.identifier.uri | https://updc.up.ac.th/handle/123456789/210 | |
dc.language.iso | other | |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
dc.subject | โรคพยาธิใบไม้ตับ | |
dc.subject | การรับรู้ | |
dc.subject | พฤติกรรมการป้องกันโรค | |
dc.subject | ปัจจัยเสี่ยง | |
dc.subject | Opisthorchis viverrine | |
dc.subject | Perceive | |
dc.subject | Preventive behavior | |
dc.subject | Risk factor | |
dc.title | ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา | |
dc.title.alternative | Factors Associated With Opisthorchis Viverrini Infection in Dokkhamtai District, Phayao Province | |
dc.type | Thesis |