ผลของการรำวงย้อนยุคต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและการทรงตัวในผู้สูงอายุ
No Thumbnail Available
Date
2017
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
มหาวิทยาลัยพะเยา
Abstract
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่างๆ การนำเอารำวงย้อนยุคมาใช้ในการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มความสามารถทางกายของผู้สูงอายุ จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการรำวงย้อนยุคต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่า และความสามารถในการทรงตัวในผู้สูงอายุ โดยทำการศึกษาในอาสาสมัครเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 60-74 ปี จำนวน 42 คน แบ่งอาสาสมัครออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม 21 คน และ กลุ่มร่วง 21 คน โดยกลุ่มควบคุมจะไม่ได้รับโปรแกรมรำวงย้อนยุคและให้ทำกิจวัตรประจำวันของตนเองตามปกติ ส่วนกลุ่มรำวงจะได้รับการเข้าร่วมโปรแกรมรำวงย้อนยุควันละ 40 นาที 3 วันต่อสัปดาห์เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ อาสาสมัครจะทำการทดสอบ Three Times Stand and Walk Test (TTSW) เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและความสามารถในการทรงตัวในผู้สูงอายุทั้งก่อนและหลังการเข้าร่วมโปรแกรมรำวงย้อนยุค ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการศึกษา พบว่า กลุ่มรำวงย้อนยุคใช้เวลาในการทำการทดสอบ TTSW น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.001) โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 12.99±1.84 และ 1.72±2.10 วินาที ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พบว่า กลุ่มรำวงย้อนยุคใช้เวลาน้อยลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.03) โดยมีค่าเฉลี่ยในกลุ่มควบคุมและกลุ่มรำวงย้อนยุค เท่ากับ 13.15±1.71 และ 11.72±2.10 วินาที ตามลำดับ และพบความแตกต่างระหว่างกลุ่มของค่าเฉลี่ยความต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.02) โดยมีค่าเท่ากับ -0.29±1.54 และ 1.27±1.14 วินาที ตามลำดับ สรุปผลการศึกษาครั้งนี้การรำวงย้อนยุคสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและความสามารถในการทรงตัวได้ การนำรำวงย้อนยุคไปใช้ในการออกกำลังกายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพทางกายให้แก่ผู้สูงอายุ
Description
When people become aging, it results in a decline in functioning and causes the risk of problems. The use of Thai folk dance is used in exercise for the elderly, which may be on alternative to enhance the physical performance ability in older adults. The objective was to the effects of Thai folk dance on strength of knee extensor muscles and balance in older adults. Forty-two older adults aged between 60-74 years were divided into control group (n=21) and Thai folk dance group (n=21). The control group doesn't receive the program of Thai folk dance and were their daily activities as usual. Thai folk dance group received the program of Thai folk dance for 40 minutes, three times a week for 6 weeks. Both groups were assessed Three Times Stand and Walk Test (TTSW) for investigate the strength of knee extensor muscles and balance in older adults before and after the Thai folk dance program. When compared before and after intervention found that TTSW of Thai folk dance group was decline significantly (12.99±1.84 seconds and 11.72±2.10 seconds respectively; p = 0.001). When compared between group found that Thai folk dance group TTSW was significance less than control group (13.15±1.71 seconds and 11:72±2.10 seconds respectively; p = 0.030) and mean difference score was significance too. (-0.29±1.54 seconds and -1.27±1.14 seconds respectively; p = 0.042). Conclusions are Thai folk dance can improve strength of knee extensor muscles and balance. Use of Thai folk dance for exercise may be an alternative to promote physical performance in older adults.
Keywords
รำวงย้อนยุค, การลุกยืน 3 ครั้งแล้วเดิน, ผู้สูงอายุ, การทรงตัว, Thai Folk Dance, Three Times Stand and Walk Test (TTSW), Older Adults, Balance
Citation
สุวัฒน์ ทิทา และอาทิตยา มณีจันทร์สุข. (2560). ผลของการรำวงย้อนยุคต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและการทรงตัวในผู้สูงอายุ. [ปริญญานิพนธ์บัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยพะเยา. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC).