การส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม จังหวัดพะเยา
| dc.contributor.author | กุสุมา ศรีจันทร์ | |
| dc.date.accessioned | 2025-10-14T07:15:06Z | |
| dc.date.available | 2025-10-14T07:15:06Z | |
| dc.date.issued | 2012 | |
| dc.description | The purpose of this independent study to study status, problems and needs to do research in a class of teachers in 2554 at Chiangkham Wittayakhom School, Chiangkham District in Phayao. Samples were 92 people who were sent questionnaires by myself and get back 83 papers. Tools used in this study was to determine after the conviction. And analysis of data obtained by using descriptive statistics, frequency distribution, percentage, mean and standard deviation. The findings support the research in the classroom at Chiangkham Wittayakhom found that most respondents were female. Graduate degree. 1-5 years’ experience and have experience in conducting research in the classroom for a year doing research in a class of teachers in their schools. Research suggests that classroom teachers are needed most to the knowledge of the research is necessary to do research in the classroom, teachers rarely have time for research in the classroom. The promotion of research in a class of teachers at the middle level. The school provides the Hi-speed Internet for teachers and guidance to teachers about the importance and benefits of the research in the classroom, but the administrator takes less motivation to the teachers who do research. The problem of research in a class of teachers found that the teachers have a great number of works so that they have not enough time, data source and have less knowledge in the process of doing the ability research, the research didn’t get from the real teaching and the results of this research cannot solve the problem of pupils. The problem of personnel involved in the operation and support for research in the classroom: the administrator should not delegate the task to the teacher overload because the teachers have no time to do research in the classroom, supporting for research in the classroom is less and teachers get less motive to do research so the research in classroom has no quality. No sharing of knowledge and experience in conducting research in the classroom with the teachers. With stakeholders was involved in research or advice to the teachers in the classroom. School board to discuss the research in the classroom. Their target. The ability to recognize and cooperate less unequal. In the case of budget for the materials and resources. The budget allocation for research in the classroom is limited and discrete, teachers have less of expertise in the use of electronic media, the schools is limited to providing information on the Internet and there are not enough data and the sample research. The need for research in the classroom teacher. teachers want to have the training or expert advice on how to do research in the classroom by supervisors. The expert committee for research assistance in the research closely. The administrator should supervise closely and regularly. Training programs for continued research. The budget allocation for research in the classroom of a teacher, procurement of materials and equipment, electronic media in the classroom enough to do research, Schools should be connected to a broadband network for teachers who were more liberal. Teachers should have knowledge and experience in conducting research in the classroom. School board and parents should take part in a research project in the class of the school. Students were supposed too actually willingly. | |
| dc.description.abstract | การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ปีการศึกษา 2554 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งสิ้น 92 คน โดยผู้ศึกษาได้ส่งแบบสอบถามด้วยตนเอง และได้รับกลับคืนมา 83 ชุด เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบสอบถามหลังจากผ่านการหาความเชื่อมั่น และมีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา การส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์ทำงาน 1-5 ปี และมีประสบการณ์ในการทำวิจัยในชั้นเรียน 1 ปี สภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน อยู่ในระดับมาก เห็นว่าการทำวิจัยในชั้นเรียนมีความจำเป็นมากที่สุดต่อวิชาชีพครู ดังนั้น ความรู้ในกระบวนการทำวิจัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการทำวิจัยในชั้นเรียน ครูไม่ค่อยมีเวลาสำหรับการทำวิจัยในชั้นเรียน ส่วนการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียน อยู่ในระดับปานกลาง โดยทางโรงเรียนได้จัดเตรียมระบบอินเตอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพไว้บริการ และได้ชี้นำให้ครูเห็นความสำคัญ และประโยชน์ของการทำวิจัยในชั้นเรียน แต่ทางโรงเรียน ยังขาดการเสริมแรงหรือให้ขวัญกำลังใจแก่ครูผู้ทำวิจัย ด้านปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู คือ ปัญหาด้านกระบวนการทำวิจัยในชั้นเรียน ภาระงานของครูมีมาก โรงเรียนมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ การขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการทำวิจัยที่ถูกต้อง การทำวิจัยไม่ค่อยมาจากสภาพการเรียนการสอน และผลของการวิจัยไม่ได้นำไปแก้ไขปัญหาผู้เรียนจริง ส่วนปัญหาด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน และให้การสนับสนุนในการทำวิจัยในชั้นเรียนนั้น ผู้บริหารควรมอบหมายภาระงานให้ครูผู้สอนไม่มากเกินไปซึ่งจะส่งผลให้ครูไม่มีเวลาในการทำวิจัยในชั้นเรียน การสนับสนุนการทำวิจัยใน ชั้นเรียนยังขาดต่อเนื่อง ขาดการเสริมแรงหรือขาดแรงจูงใจ จึงทำให้งานวิจัยในชั้นเรียนไม่มีคุณภาพ ไม่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำวิจัยในชั้นเรียนระหว่างเพื่อนครูด้วยกัน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ค่อยมีส่วนร่วมหรือมีข้อแนะนำในการทำวิจัยในชั้นเรียนให้แก่ครูโรงเรียน ไม่มีคณะกรรมการที่ให้คำปรึกษาการทำวิจัยในชั้นเรียน นักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีความสามารถในการรับรู้ ไม่เท่ากันและให้ความร่วมมือน้อย สำหรับปัญหาด้านงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และแหล่งข้อมูลนั้น โรงเรียนจัดสรรงบประมาณในการทำวิจัยในชั้นเรียนค่อนข้างจำกัด และไม่ต่อเนื่อง ครูขาดความชำนาญในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โรงเรียนมีข้อจำกัดในการให้บริการการสืบค้นข้อมูล ในบางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในห้องสมุดไม่ค่อยมีเอกสารงานวิจัยและตัวอย่างงานวิจัย ส่วนความต้องการในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนนั้น ครูต้องการให้มีการอบรมหรือนำผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำวิธีการหรือกระบวนการทำวิจัยในชั้นเรียนที่ถูกต้อง โดยเฉพาะศึกษานิเทศก์ และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในการทำวิจัยมาดูแลช่วยเหลือในการทำวิจัยอย่างใกล้ชิด ทั่วถึงและจริงจัง รวมทั้งผู้บริหารควรมีการนิเทศ ติดตามอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ มีโครงการการอบรมการทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง จัดสรรงบประมาณที่ใช้ในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูมากขึ้น และจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการทำวิจัยในชั้นเรียนให้เพียงพอ โรงเรียนควรแนะนำระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้แก่ครูผู้ทำวิจัยอย่างเสรีมากขึ้น ครูควรมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กันในเรื่องการทำวิจัยในชั้นเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองควรเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการ การทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียนมากขึ้น นักเรียนกลุ่มตัวอย่างควรให้ข้อมูลตามความเป็นจริงด้วยความเต็มใจ | |
| dc.description.sponsorship | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
| dc.identifier.citation | กุสุมา ศรีจันทร์. (2555). การส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม จังหวัดพะเยา. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยพะเยา]. ฐานข้อมูลคลังปัญญาดิจิทัล มหาวิทยาลัยพะเยา (UP Digital Collections: UPDC). | |
| dc.identifier.uri | https://updc.up.ac.th/handle/123456789/1794 | |
| dc.language.iso | other | |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
| dc.subject | การทำวิจัยในชั้นเรียน | |
| dc.subject | Conducting research in the classroom | |
| dc.title | การส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม จังหวัดพะเยา | |
| dc.title.alternative | Classroom Action Research Promotion of Teachers in Chiangkham Wittayakhom School, Phayao Province | |
| dc.type | Thesis |