การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง โมเมนต์ของแรงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก
| dc.contributor.author | ปิยนุช ไกรกิจราษฎร์ | |
| dc.date.accessioned | 2024-12-02T08:51:53Z | |
| dc.date.available | 2024-12-02T08:51:53Z | |
| dc.date.issued | 2017 | |
| dc.description | The purposes of this research. First is development and design of Inquiry process Activity Package 5E on Moment of Force. Second is compare the achievement of students before and after when used Inquiry process Activity Package 5E on Moment of Force. Third to study enhancement the learning progress used Inquiry process Activity Package 5E of Moment of Force. And fourth is study the complacence used on Inquiry process Activity Package 5E of Moment of Force. The populations used in this study were 20 students by choose a specific. Of Mathayomsuksa 3.1 in the second semester of the academic year 2016, Krainaiwittayakhom rachamangkhlaphisek School. The tools used in the research. 1) Achievement Test, a multiple-choice test type 4 options 15 questions. 2) Activity Package 5E on Moment of Force. 3) Lesson plans about the Activity Package 5E on Moment of Force. 4) Survey of satisfaction. The data were analyzed by using percentage (%), means (x), standard deviation (S.D.), T-test and Average normalized gain. The researcher found the following results. 1) The achievement posttest (X =12.5) which students had learnt through used Inquiry process activity package 5E on moment of force was higher than the pretest with (X =8.8) at .05, level of statistical significance 2) The results of the enhancement the learning progress used Inquiry process activity package 5E on moment of force using normalized gain was the class normalized gain on learning progress at the medium level (<g>= 0.54). And an individual of students was 3 level be 4 students is low level (<g> ≥ 0.03) 11 students is medium level (0.7≤ <g> ≥0.3) and 5 students is high level (<g> ≤ 0.7). 3. The results of the survey on a complacence to use on Inquiry process activity package 5E of moment of force was high level (X =3.98) | |
| dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและออกแบบสื่อการเรียนรู้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังของนักเรียนหลังจากได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ 3) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 1 โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก เรื่อง คานและโมเมนต์ จำนวน 15 ข้อ 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง โมเมนต์ของแรง 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test แบบ dependent และความก้าวหน้าทางการเรียน <g> ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนการสอบหลังเรียน (X = 12.5) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนเรียน (X = 8.8) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลการประเมินความก้าวหน้าทางการเรียนโดยใช้วิธี Average normalized gain พบว่า 2.1) ความก้าวหน้าทางการเรียนแบบรายชั้นเรียนมีค่าเท่ากับ (<g> = 0.54) ซึ่งอยู่ในความก้าวหน้าระดับปานกลาง 2.2) ความก้าวหน้าทางการเรียนแบบรายบุคคล แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ อยู่ในระดับความก้าวหน้าสูง 5 คน ระดับความก้าวหน้าปานกลาง 11 คน ระดับความก้าวหน้าต่ำ อีก 4 คน 3) ผลของการประเมินความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง คานและโมเมนต์ จากทั้งหมด 20 คน พบว่า อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ยรวม เท่ากับ 3.98 อยู่ในเกณฑ์ระดับดี | |
| dc.description.sponsorship | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
| dc.identifier.citation | ปิยนุช ไกรกิจราษฎร์. (2560). การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง โมเมนต์ของแรงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก. [ปริญญานิพนธ์ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยพะเยา. | |
| dc.identifier.uri | https://updc.up.ac.th/handle/123456789/1061 | |
| dc.language.iso | other | |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยพะเยา | |
| dc.subject | โมเมนต์ของแรง | |
| dc.subject | กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E | |
| dc.subject | ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน | |
| dc.subject | ความก้าวหน้าทางการเรียน | |
| dc.subject | ความพึงพอใจทางการเรียน | |
| dc.subject | Moment of Force | |
| dc.subject | Inquiry process Activity Package 5E | |
| dc.subject | The Achievement | |
| dc.subject | Enhancement | |
| dc.subject | Complacence | |
| dc.title | การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง โมเมนต์ของแรงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก | |
| dc.title.alternative | The Development and Design of Inquiry Process Activity Package 5E on Moment of Force for Student in Mattayom 3 of Krainaiwittayakhom Rachamangkhlaphisek School | |
| dc.type | Other |