Browsing by Author "ทรงกรด มูลเทพ"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemการประเมินการสูญเสียหน้าดินของพื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2022) ทรงกรด มูลเทพการวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาและการประเมินการสูญเสียหน้าดินของพื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันไดโดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพของดินพื้นที่ปลูกป่าขั้นบันได และประเมินการสูญเสียหน้าดินของพื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได และพื้นที่ปลูกป่าตามแนวลาดชันปกติที่ความลาดชันแตกต่างกัน ที่ 25% 35% และ 45% ทำการวางแปลงเป็นระยะเวลา 2 ปี ศึกษาข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศ ข้อมูลสมบัติกายภาพดิน ข้อมูลสมบัติทางเคมีดิน ข้อมูลการสูญเสียหน้าดินประเมินการสูญเสียหน้าดินโดยใช้สมการสูญเสียดินสากล จากการศึกษาวิจัย พบว่า พื้นที่ปลูกป่าตามแนวลาดชันปกติ ความลาดชัน 45% มีค่าการสูญเสียดิน 626.52 ตัน/เฮกตาร์/ปี รองลงมา พื้นที่ปลูกป่าตามแนวลาดชันปกติ ความลาดชัน 35% มีค่าการสูญเสียดิน 613.75 ตัน/เฮกตาร์/ปี พื้นที่ปลูกป่าตามแนวลาดชันปกติ ความลาดชัน 25% มีค่าการสูญเสียดิน 437.53 ตัน/เฮกตาร์/ปี พื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได ความลาดชัน 45% มีค่าการสูญเสียดิน 399.79 ตัน/เฮกตาร์/ปี พื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได ความลาดชัน 35% มีค่าการสูญเสียดิน 364.82 ตัน/เฮกตาร์/ปี ตามลำดับ และการทดลองที่มีการสูญเสียหน้าดินน้อยที่สุด คือ พื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได ความลาดชัน 25% มีค่าการสูญเสียดิน 352.94 ตัน/เฮกตาร์/ปี จากผลการศึกษาของทั้ง 2 พื้นที่ศึกษาแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยเกี่ยวกับภูมิประเทศ ความลาดชัน และปริมาณน้ำฝน มีผลในการก่อให้เกิดการสูญเสียหน้าดิน ดังนั้นการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนจึงต้องมีแนวทางที่จะนำมาจัดการในพื้นที่ดังนั้นผู้วิจัยได้เสนอแนวทางโดยใช้หลักการใช้รูปแบบองค์ความรู้ในรูปแบบระบบการเกษตรมรดกโลก GIASH ของ FAO มีความคล้ายคลึงกับระบบเกษตรพอเพียง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นระบบทางการเกษตรมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่น โดยวิเคราะห์คุณลักษณะ การจัดการโซนนิ่ง และเป็นแนวทางการจัดการพื้นที่ปลูกป่าแบบขั้นบันได โดยระบบเกษตรมรดกโลกนั้นใช้วิธีการพิจารณาพื้นที่โดยคำนึงถึงเกณฑ์ของ FAO คือ 1) ความมั่นคงทางอาหารและชีวิตความเป็นอยู่ 2) ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศเกษตร 3) ระบบความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 4) วัฒนธรรม ระบบค่านิยม และองค์กรทางสังคม 5) ความโดดเด่นทางภูมิทัศน์และทะเลทัศน์ ซึ่งระบบเกษตรมรดกโลกจะสามารถรักษาสมดุลของระบบนิเวศภูมิทัศน์การเกษตรให้มีความมั่นทางอาหารควบคู่กับนิเวศวัฒนธรรมของในแต่ละพื้นที่ฟื้นฟูป่าต้นน้ำได้อย่างยั่งยืน