Browsing by Author "อนุพงศ์ คำปลอด"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemการศึกษาพฤติกรรมเชิงกลของดินเหนียวอ่อนกรุงเทพผสมปูนซีเมนต์และเถ้าลอยในห้องปฏิบัติการ(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2020) อนุพงศ์ คำปลอดการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมักประสบปัญหากับชั้นดินเหนียวอ่อน เนื่องจากชั้นดินเหนียวอ่อนมีปริมาณความชื้นในมวลดินสูงจึงส่งผลให้กำลังรับแรงเฉือนต่ำ ดินเหนียวนี้มีชื่อว่า ดินเหนียวอ่อนกรุงเทพ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการปรับปรุงคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินก่อนนำไปใช้งาน ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้ปูนซีเมนต์มาผสมกับดิน เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติให้ดีขึ้น เช่น การใช้ปูนซีเมนต์ผสมกับดินเพื่อก่อสร้างเสาเข็มดินซีเมนต์ สำหรับใช้ในการรองรับน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ การก่อสร้างเสาเข็มดินซีเมนต์จำเป็นต้องใช้ปูนซีเมนต์ในปริมาณที่มาก เพื่อเป็นการลดการใช้ปูนซีเมนต์จึงมีการส่งเสริมให้นำเอาเถ้าลอย ซึ่งเป็นวัสดุปอซโซลานใช้ทดแทนปูนซีเมนต์ ดังนั้นงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมเชิงกลของดินเหนียวอ่อนกรุงเทพผสมปูนซีเมนต์และเถ้าลอย โดยสัดส่วนผสมที่ใช้ประกอบไปด้วย ดัชนีเหลว (Ll) เท่ากับ 1.0 1.3 และ 1.6 อัตราส่วนเปอร์เซ็นต์วัสดุประสานต่อเปอร์เซ็นต์น้ำในมวลดิน (B/w) เท่ากับ 0.2 0.3 และ 0.4 โดยวัสดุประสาน คือ ปูนซีเมนต์และเถ้าลอย และสุดท้ายเถ้าลอย (FA) ที่ใช้ถูกนำมาแทนที่ปูนซีเมนต์ที่ปริมาณ 0 15 30 45 และ 60 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างดินที่ปรับปรุงคุณสมบัติจะถูกนำมาทดสอบทางวิศวกรรม ดังนี้ การทดสอบกำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยว การทดสอบความคงทนภายใต้สภาวะเปียกสลับแห้ง และการทดสอบการหดตัวโดยใช้วิธีภาพถ่ายในสภาวะแห้ง และสภาวะเปียกสลับแห้ง จากผลการทดสอบกำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยว สรุปได้ว่า ค่ากำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยวลดลงเมื่อเพิ่มเถ้าลอยแทนที่ปูนซีเมนต์ทุกส่วนผสม ส่วนผลการทดสอบความคงทน พบว่า เมื่อเพิ่มรอบเปียกสลับแห้งทำให้กำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยวลดลงทุกส่วนผสม สำหรับผลการทดสอบการหดตัวในสภาวะปกติ พบว่า การเพิ่มเถ้าลอยแทนที่ปูนซีเมนต์ส่งผลให้การหดตัวลดลงทุกส่วนผสม และผลการทดสอบการหดตัวในสภาวะเปียกสลับแห้ง พบว่า เมื่อเพิ่มรอบเปียกสลับแห้งทำให้การหดตัวในช่วงแรกเพิ่มขึ้นอย่างมาก (รอบที่ 1 ถึง 3) หลังจากรอบที่ 3 ตัวอย่างจะเกิดการพัง จึงสรุปได้ว่าตัวอย่างสามารถทนสภาวะเปียกสลับแห้งได้ 3 รอบ จากผลการทดสอบทั้งหมดสรุปได้ว่า สัดส่วนผสม L11.6B/w.0.3FA15 เป็นส่วนผสมที่เหมาะสมที่สุดในการทำเสาเข็มดินซีเมนต์ โดยมีกำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยวที่ 28 วันมีค่าเท่ากับ 738.53 kPa ซึ่งผ่านเกณฑ์การออกแบบเสาเข็มดินซีเมนต์ที่กำหนดให้มีค่ากำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยวไม่ต่ำกว่า 600 kPa สำหรับรองรับน้ำหนักถนนและบนคันคลอง และมีการหดตัวน้อยที่สุดเท่ากับ 5.74 เปอร์เซ็นต์ และสัดส่วนผสมนี้สามารถทนต่อสภาวะเปียกสลับแห้งได้ 3 รอบโดยมีค่ากำลังรับแรงอัดแกนเดี่ยวเท่ากับ 601.37 kPa ส่วนการหดตัวในรอบที่ 3 มีค่าเท่ากับ 7.50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่าส่วนผสมที่ไม่มีเถ้าลอย