Browsing by Author "รณชิต อภัยวาทิน"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ทฤษฎีสรรคนิยมเชิงสังคมเพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารและซอฟต์สกิลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2024) รณชิต อภัยวาทินการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ทฤษฎีสรรคนิยมเชิงสังคม เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารและซอฟต์สกิลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ทฤษฎีสรรคนิยมเชิงสังคม เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารและซอฟต์สกิลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยใช้ทฤษฎีสรรคนิยมเชิงสังคม เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารและซอฟต์สกิลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วิจัยโดยใช้การวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนาร่างรูปแบบการเรียนการสอน ระยะที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น และระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 แผนการเรียนศิลป์ภาษา โรงเรียนโกวิทธำรงเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 35 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน และ 2) แผนการจัดการเรียนการสอน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ 1) แบบทดสอบ 2) แบบประเมินทักษะซอฟต์สกิลด้านทักษะการสื่อสาร ด้านทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และด้านทักษะการแก้ปัญหา และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์การแปรผัน สถิติทดสอบที (t-test one sample) และค่าความก้าวหน้าสัมพัทธ์ ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการของรูปแบบการเรียนการสอน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการเรียนการสอน 3) กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ ขั้นที่ 1 ตรวจสอบความรู้เดิม (Checking Prior Knowledge: C1) ขั้นที่ 2 ผสานความรู้ใหม่ (Connecting with New Knowledge: C2) ขั้นที่ 3 ร่วมกันแก้ปัญหา (Collaborative Problem-Solving: C3) ขั้นที่ 4 ร่วมกันนำเสนอและอภิปร าย (Collaborative Presentation and Discussion: C4) ขั้นที่ 5 ประยุกต์ใช้อย่างเข้าใจ (Comprehensive Application: C5) 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบการเรียนการสอน และ 5) ปัจจัยสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. ผลการประเมินประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ เท่ากับ 81.08/80.38 และผลการวิเคราะห์ประสิทธิผล มีค่าดัชนีประสิทธิผล 0.65 และ 3. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีคะแนนทักษะการสื่อสารสูงกว่าก่อนใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 มีค่าเฉลี่ยความก้าวหน้าสัมพัทธ์ของซอฟต์สกิล ด้านทักษะการสื่อสาร เท่ากับ 51.85 พัฒนาการอยู่ในระดับสูง ด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น เท่ากับ 54.64 พัฒนาการอยู่ในระดับสูง และด้านการแก้ปัญหา เท่ากับ 37.15 พัฒนาการอยู่ในระดับปานกลาง และมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด