Browsing by Author "ภูชิต แตงโตนด"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemการพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเขต 2 (จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน)(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2022) ภูชิต แตงโตนดปลูกทดสอบพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมจากโครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพด มหาวิทยาลัยพะเยา งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพี่อคัดเลือกสายพันธุ์และพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่เหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ปลูกทดสอบในไร่เกษตรกรร่วมกับพันธุ์เปรียบเทียบในพื้นที่ เพื่อทดสอบพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่เหมาะสมกับภาคเหนือตอนบน พบว่า ในฤดูกาลที่ 2 พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด 5 อันดับแรก คือ UP42 x Kei1601, UP42 x Ki57, UP42 x Ki47, UP4 x Kei1601 และ UP50 x Kei1601 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,788, 1,744, 1,701 , 1,691 และ 1,674 กก./ไร่ ตามลำดับ ขณะที่พันธุ์เปรียบเที่ยบ ได้แก่ พันธุ์ DK6818, GT709, GT822, CP640 และ NK6253 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,212, 1,798, 1,777, 1,300 และ 1,234 กก./ไร่ ในฤดูกาลที่ 4 พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด 5 อันดับแรก คือ UP42 x Kei1519, UP4 x Ki57, UP42 x Ki56, UP34 x Ki57 และ UP45 x Kei1519 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,104, 1,074, 979, 975 และ 975 กก./ไร่ ตามลำดับ ในขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบจากภาครัฐ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 942 กก./ไร่ และพันธุ์เปรียบเทียบจากภาคเอกชน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,049 กก./ไร่ ฤดูกาลที่ 4 Trial 1 พันธุ์ที่ให้ให้ผลผลิตสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ UP30 x Kei1531, UP4 x Kei1723, UP42 x Ki57, UP4 x Ki56 และ UP4 x Kei1713 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,746, 1,727, 1,727, 1,651 และ 1,647 กก./ไร่ ตามลำาดับ ในขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบจากภาครัฐ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,332 กก./ไร่ และพันธุ์เปรียบเทียบจากภาคเอกชน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,364 กก./ไร่ Trial 2 พันธุ์ที่ให้ให้ผลผลิตสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ UP50 x Kei1614, UP50 x Kei1601, UP45 x Ki56, UP66 x Kei1615 และ UP45 x Kei1509 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2,019, 1,891, 1,879, 1,872 และ 1,748 กก./ไร่ ตามลำดับ ในขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบจากภาครัฐ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,585 กก./ไร่ และจากภาคเอกชน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1,674 กก./ไร่ Trial 3 พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Kei1519 x T5, UP86 x T4, UP55 x T4, Kei1421 x T3 และ UP42 x T5 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,986, 1,982, 1,976, 1,927 และ 1,908 กก./ไร่ ตามลำดับ ในขณะที่พันธุ์เปรียบเทียบจากภาครัฐ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,666 กก./ไร่ และจากภาคเอกชน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,711 กก./ไร่ ตามลำดับ โดยได้ดำเนินการคัดเลือกพันธุ์ที่มีศักยภาพ เพื่อทำการปลูกทดสอบประเมินผลผลิตในแปลงเกษตรกรฤดูกาลถัดไป