Browsing by Author "ภาณุเดช เทียนชัย"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemการควบคุมโรคเหี่ยวของเมล่อนโดยใช้ราเอนโดไฟท์และสารปรับปรุงดิน(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2019) ภาณุเดช เทียนชัยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของราเอนโดไฟท์ Trichoderma sp. (L1I3) ที่แยกได้จากพืชสมุนไพรต้นสาบเสือ (Chromolaena odorata L.) และ T. harzianum (R24I2) ที่แยกได้จากพืชตระกูลแตงร่วมกับสารปรับปรุงดินในการควบคุมโรคเหี่ยวของเมล่อน ในการทดลองที่ 1 การทดสอบประสิทธิภาพสารปรับปรุงดินต่อการเจริญของราเอนโดไฟท์บนอาหาร PDA พบว่า สารปรับปรุงดินทุกระดับความเข้มข้นไม่มีผลต่อการเจริญของราเอนโดไฟท์ทั้งสองชนิด การทดลองที่ 2 การทดสอบความสามารถในการเกิดโรค พบว่า ราเอนโดไฟท์ทั้ง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ Trichoderma sp. (L1I3) และ T. harzianum (R24I2) ไม่ก่อให้เกิดโรคในเมล่อน ในขณะที่ทดสอบความสามารถในการเกิดโรคของรา Fusarium equiseti (UP-PA002) พบว่า มีการเกิดโรคในระยะเมล็ดอยู่ในดิน 54 เปอร์เซ็นต์ การทดลองที่ 3 การทดสอบผลของราเอนโดไฟท์ Trichoderma sp. (L1I3) และ T. harzianum (R24I2) ต่อยับยั้งรา F. equiseti (UP-PA002) โดยวิธี dual culture พบว่า มีเปอร์เซ็นต์การยับยั้ง เท่ากับ 84.16 และ 80.88 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การทดลองที่ 4 การทดสอบผลของราเอนโดไฟท์ในการควบคุมโรคเหี่ยวในระดับโรงเรือน พบว่า กรรมวิธีที่ปลูกเชื้อ Trichoderma sp. (L1I3) มีจำนวนใบ จำนวนข้อ ความสูง และน้ำหนักผล มากที่สุด และมีคะแนนการเกิด โรคเฉลี่ยระดับ 1.00 การทดลองที่ 5 การทดสอบประสิทธิภาพของสารป้องกันกำจัดเชื้อราต่อการยับยั้งการเจริญของรา F. equiseti (UP-PA002) ในระดับห้องปฏิบัติการ พบว่า สาร etridiazole ร่วมกับ quintozene ที่ระดับความเข้มข้นตามคำแนะนำในฉลาก (normal dose) สามารถยังยั้งการเจริญของรา F. equiseti (UP-PA002) สาเหตุโรคเหี่ยวในเมล่อนได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์ การทดลองสุดท้าย เป็นการทดสอบใช้ราเอนโดไฟท์ร่วมกับสารปรับปรุงดินควบคุมโรคเหี่ยวของเมล่อนในระดับแปลงทดลอง พบว่า การใช้สารปรับปรุงดิน อัตรา 2 ลิตรต่อไร่ ร่วมกับราเอนโดไฟท์ (Trichoderma sp. L1I3) มีจำนวนใบ จำนวนข้อ และความสูงมากที่สุดและไม่มีการเกิดโรค