Browsing by Author "ปริยาภัทร งานดี"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemประสิทธิภาพของน้ำโอโซนร่วมกับการเคลือบด้วยแคลเซียมแอลจิเนตในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ต่อคุณภาพของสับปะรดภูแลตัดแต่ง(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2023) ปริยาภัทร งานดีงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ำโอโซนร่วมกับการเคลือบด้วยแคลเซียมแอลจิเนต ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ต่อคุณภาพของสับปะรดภูแลตัดแต่ง ระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 10±2 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80±2% โดยแบ่งเป็น 3 การทดลอง ดังนี้ การทดลองที่ 1 ศึกษาประสิทธิภาพของการล้างด้วยน้ำโอโซนต่อการรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว และยืดอายุการเก็บรักษาสับปะรดภูแลตัดแต่ง โดยนำสับปะรดตัดแต่งมาล้างด้วยน้ำโอโซนที่ระดับความเข้มข้น 0, 100, 150 และ 200 mg/hr. ร่วมกับระยะเวลาในการล้าง 30 วินาที, 1 และ 2 นาที พบว่า การล้างสับปะรดตัดแต่งด้วยน้ำโอโซนที่ระดับความเข้มข้น 200 mg/hr. ที่ระยะเวลา 2 นาทีมีประสิทธิภาพดีที่สุดต่อการรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว โดยช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์ การสูญเสียน้ำหนักการเกิดสีน้ำตาล และมีอายุการเก็บรักษาได้นาน 10 วัน การทดลองที่ 2 เพื่อศึกษาผลของการเคลือบผิวด้วยแคลเซียมคลอไรด์ และแคลเซียมแลคเตท ต่อคุณภาพของสับปะรดภูแลตัดแต่ง โดยนำสับปะรดตัดแต่งมาแช่ในสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และแคลเซียมแลคเตทที่ระดับความเข้มข้น 0.5, 1 และ 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 2 นาที แล้วนำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 10±2 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80±2% ผลการทดลองพบว่า สับปะรดตัดแต่งที่แช่ในสารละลายแคลเซียมทั้งสองชนิดที่ความเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ ช่วยรักษาคุณภาพ โดยช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์การสูญเสียน้ำหนัก และการเกิดสีน้ำตาล และมีอายุการเก็บรักษาได้นาน 10 วัน การทดลองที่ 3 ศึกษาประสิทธิภาพของน้ำโอโซน 200 มิลิลกรัมต่อชั่วโมง สารละลายแอลจิเนต 1 เปอร์เซ็นต์ สารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2 เปอร์เซ็นต์ สารละลายแอลจิเนต 1 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2 เปอร์เซ็นต์ ต่อคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว และอายุการเก็บรักษาของสับปะรดภูแลตัดแต่ง ผลการศึกษาพบว่า สับปะรดตัดแต่งที่แช่ในสารละลายแอลจิเนต 1 เปอร์เซ็นต์ และสารละลายแอลจิเนต 1 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 2 เปอร์เซ็นต์ มีประสิทธิภาพในการช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์และมีอายุการเก็บรักษานานที่สุด 12 วัน