Browsing by Author "ประวีณา แสนสุวรรณ"
Now showing 1 - 1 of 1
Results Per Page
Sort Options
- Itemผลของการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นปลายประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนังต่อระดับความเจ็บปวดและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม(มหาวิทยาลัยพะเยา, 2017) ประวีณา แสนสุวรรณ; พีรวัส เดชพรมโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวข้อ (Articular Cartilage) และเกิดการเสื่อมของกระดูกใต้กระดูกอ่อน (Subchondral Bone) ในข้อเข่า ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบในข้อเข่า ทำให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันได้น้อยลง กำลังกล้ามเนื้อขาลดลง โดยเฉพาะกำลังกล้ามเนื้อในการเหยียดข้อเข่า ส่งผลให้องศาการเคลื่อนไหวของข้อเข่าลดลง มีภาวะซึมเศร้า และทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง การรักษาทางกายภาพบำบัดในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมีความสำคัญและช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นปลายประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ซึ่งสามารถลดอาการปวดข้อเข่าได้ดี แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบการกระตุ้น จำนวนครั้งของการกระตุ้นระยะเวลาของการกระตุ้น ที่ดีที่สุดยังมีการศึกษาอยู่น้อย ดังนั้นจึงมีการศึกษานี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นปลายประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ใช้กระแสไฟฟ้ารูปแบบ High TENS ต่อระดับความเจ็บปวด ขีดกั้นความเจ็บปวดต่อแรงกด องศาการเคลื่อนไหว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ภาวะซึมเศร้า และคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม ศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งเพศชายและหญิง อายุ 50-75 ปี อาศัยในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จำนวนทั้งหมด 42 คน แบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่มด้วยวิธีการสุ่ม กลุ่มที่ 1. ได้รับการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นปลายประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ใช้การกระตุ้นแบบ High TENS ร่วมกับการออกกำลังกาย กลุ่มที่ 2. ให้การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าแบบหลอก (Placebo TENS) ร่วมกับการออกกำลังกาย โดยให้การรักษา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เวลา 40-50 นาที เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ผลการศึกษาเมื่อเปรียบเทียบภายในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย High TENS พบว่า หลังจากให้การรักษาไปแล้ว 2 และ 4 สัปดาห์ อาสาสมัครมีระดับความเจ็บปวดลดลง การติดของข้อเข่าลดลง คุณภาพชีวิตในด้านการทำกิจกรรม อารมณ์ และอาการปวดดีขึ้น และองศาการเคลื่อนไหวในทิศเหยียดเข่าเพิ่มขึ้น ความสามารถในการทำงานของร่างกายดีขึ้นภาวะซึมเศร้าลดลง หลังให้การรักษาไปแล้ว 4 สัปดาห์ เมื่อเปรียบเทียบกับ baseline เมื่อเปรียบเทียบภายในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย Placebo TENS พบว่า หลังจากให้การรักษาไปแล้ว 2 และ 4 สัปดาห์ คุณภาพชีวิตในด้าน สุขภาพทั่วไปและสภาวะอารมณ์ดีขึ้น ภาวะซึมเศร้าลดลง และหลังให้การรักษาไปแล้ว 4 สัปดาห์องศาการเคลื่อนไหวในทิศงอและเหยียดเข่าเพิ่มขึ้น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาเพิ่มขึ้น หลังให้การรักษาไปแล้ว 2 สัปดาห์ เมื่อเปรียบเทียบกับ baseline เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่า กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย High TENS มีระดับความเจ็บปวดที่ลดลง การทำงานของข้อเข่าดีขึ้น คุณภาพชีวิตในด้านสุขภาพทั่วไปและสภาวะอารมณ์ดีขึ้นมากกว่ากลุ่ม Placebo TENS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และขีดกั้นความเจ็บปวดต่อแรงกดในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย High TENS มีค่าสูงขึ้น แต่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การศึกษานี้สรุปได้ว่า การรักษาด้วย High TENS สามารถลดระดับความเจ็บปวด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงางานของข้อเข่า และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นได้